ชุมชนร่วมสร้างสุขภาพเด็ก 0-12 ปี บ้านน้ำคา หมู่ที่ 1 ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน
(Text)
Files
Title:
ชุมชนร่วมสร้างสุขภาพเด็ก 0-12 ปี บ้านน้ำคา หมู่ที่ 1 ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน
Subject:
การส่งเสริมสุขภาพ
อนามัยเด็ก, บริการ
อนามัยชุมชน, บริการ
Creator:
กิติศักดิ์ เกษตรสินสมบัติ
Source:
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
Publisher:
สำนักหอสมุดแห่งชาติ
Date:
2547
Format:
Language:
ไทย
Alternative Title:
Community participation for health promotion 0-12 year old in Namka village, Payakaew sub district, Chiangkhang district, Nan
Abstract:
โครงการวิจัยชุมชนร่วมสร้างสุขภาพเด็ก 0-12 ปี หมู่บ้านน้ำคา หมู่ที่ 1 ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน มีวัตถุประสงค์ 4 ประการ คือ 1. เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะเด็กขาดสารอาหาร ในเด็ก 0 – 5 ปีของบ้านน้ำคา ระดับ 1 ไม่เกินร้อยละ 5 และระดับ 2 ไม่มี ภายใน ปี 25462. เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะทันตสุขภาพ ในเด็ก 0 –12 ปี ของบ้านน้ำคา ไม่เกินร้อยละ 30 ภายในปี 25463 เพื่อให้ได้รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพเด็ก 0 – 12 ปีที่เหมาะสมสำหรับชุมชนบ้านน้ำคา4. เพื่อศึกษากระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการแก้ไขปัญหาของชุมชน วิธีการดำเนินการ ทีมสุขภาพอำเภอเชียงกลาง ( Health team ) ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ต่างๆ เช่น แพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข , เภสัชกร , ทันตบุคคลากรในการวิจัยเรื่องชุมชนร่วมสร้างสุขภาพเด็ก 0-12 ปี ที่บ้านน้ำคา โดยชุมชนจะช่วยกันวิเคราะห์หาปัญหาของเด็ก 0-12 ปีในชุมชน รวมทั้งหาแนวทางแก้ปัญหา ดำเนินการแก้ปัญหา ควบคุมกำกับติดตามโดยชุมชนเอง โดยทีมสุขภาพอำเภอเชียงกลาง คอยเป็นผู้ให้การสนับสนุนในเรื่องวิชาการ และประสานงาน โดยในการดำเนินการครั้งนี้ จะเป็นการประสานงานร่วมกันระหว่างชุมชน โรงเรียน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงพยาบาล กิจกรรมที่เกิดขึ้นแบบมีส่วนร่วมของชุมชน ก่อให้เกิดความตระหนักของชุมชน ในการมีส่วนร่วมในการร่วมคิดถึงปัญหา สาเหตุของปัญหา รวมทั้งแนวทางการแก้ปัญหาเด็กขาดสารอาหาร ปัญหาสุขภาพในช่องปากของเด็ก รวมทั้งปัญหาทางด้านสังคมอื่นๆสำหรับเด็ก 0-12 ปี ได้แก่1.การสร้างสิ่งแวดล้อมในชุมชน ตั้งแต่ภายในโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก รวมทั้งร้านค้าในชุมชน ไม่มีการจำหน่ายอาหารทำลายสุขภาพเด็ก2. มีการสร้างวัฒนธรรมที่ดีในการจัดงานวันครบรอบวันเกิดสำหรับเด็ก โดยไม่มีการจัดเลี้ยงสังสรรค์ แต่จัดให้มีการเข้าวัดทำบุญ และรับเงินถุงขวัญเป็นที่ระลึก3. พี่สอนน้องในการแปรงฟันให้สะอาด รวมทั้งผู้ปกครองให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็ก4. ในงานศพ จะไม่มีการเลี้ยงลูกอม กาแฟ เครื่องดื่มทำลายสุขภาพ 5. ชุมชนมีการประกาศแนวทางปฏิบัติของชุมชน รวมทั้งบทลงโทษผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือ โดยมีการปรับเงินผลการดำเนินงาน หลังจากชุมชนได้ดำเนินการกิจกรรมดังกล่าว ก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านสุขภาพดังนี้1. ภาวะขาดสารอาหาร ก่อนเริ่มโครงการ(มิถุนายน 2545) พบเด็กขาดสารอาหาร 7 คน(ร้อยละ 15.22) เป็น 0 คน หลังดำเนินการได้ 6 เดือน และติดตามมาตลอดต่อเนื่องอีก 1 ปี ก็ยังไม่พบเด็กขาดสารอาหารในชุมชนบ้านน้ำคา2. ภาวะสุขภาพช่องปาก ตั้งแต่ มิถุนายน 2545 จนถึง ธันวาคม 2546 มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้1) ก่อนประถมศึกษา ระดับ ก. (สภาวะช่องปากดี) จากร้อยละ 34.78 เป็น 72.73 ระดับ จ. (สภาวะช่องปากที่ต้องได้รับการรักษาเร่งด่วน) จากร้อยละ 43.48 เป็น 22.73 ฟันน้ำนมผุ จากร้อยละ 82.61 เป็น 72.732) ระดับประถมศึกษา ระดับ ก. จากร้อยละ 44.59 เป็น 64.94 ระดับ จ. จากร้อยละ 40.54 เป็น 26.78 3) ฟันถาวรผุ จากร้อยละ 29.73 เป็น 15.58 ผลการตรวจฟันในศูนย์เด็กเล็ก ฟันไม่ผุ จากร้อยละ 20.83 เป็น 53.70 แปรงฟันไม่สะอาด จากร้อยละ 16.66 (มิถุนายน 2544) เป็น 0 (ตั้งแต่มิถุนายน 2545 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน)3. กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านน้ำคา ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการสร้างสุขภาพในเด็กอย่างเป็นรูปธรรม สามารถวัดผลกระทบทางด้านสุขภาพทางด้านภาวะโภชนาการ และสุขภาพช่องปากดังกล่าว โดยกระบวนการมีส่วนร่วมที่ส่งผลดังกล่าว เกิดจากการมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนตั้งแต่ร่วมวิเคราะห์ปัญหา หาสาเหตุ แนวทางแก้ไขปัญหา รวมทั้งร่วมกันดูแลแนวทางที่ชุมชนร่วมกันกำหนด ปัจจัยความสำเร็จดังกล่าวเปรียบกับการใช้กฏบัตรอ๊อตตาวา(Ottawa Charter) ได้แก่ การร่วมสร้างนโยบายสาธารณะ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ การสร้างพลังความเข้มแข็งของชุมชน การพัฒนาทักษะส่วนบุคคล(โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำของชุมชนและผู้ปกครองเด็ก) และการปรับเปลี่ยนบทบาทของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข4. ปัจจัยที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการก่อให้เกิดความสำเร็จ คือ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสุขภาพนั้นๆ นอกจากนี้ ที่ตั้งของชุมชน ก็มีส่วน เนื่องจากบ้านน้ำคาเป็นชุมชนขนาดไม่ใหญ่มาก แยกออกจากชุมชนอื่นๆ มีทุ่งนาล้อมรอบ ทำให้ชุมชนร่วมกันดูแลซึ่งกันและกันได้
